5/07/2551

อ๊บอ๊บผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์

นิทานเรื่อง อ๊บอ๊บผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์
ผลงานของ ด.ญ.ปณาลี ทองสาธิต น.ร.ชั้นประถม ๕ (ปีการศึกษา ๒๕๕๑)
นิทานเรื่องนี้ ริบบิ้น แต่งเล่นในช่วงเวลาว่าง
ท่านผู้อ่านสามารถให้คำแนะนำกับริบบิ้นได้ที่ ribbonbeep@yahoo.co.th

ตอนที่หนึ่ง:
ณ บ่อน้ำแห่งหนึ่งมีกบน้อยชื่อ “อ๊บอ๊บ” อาศัยอยู่กับเพื่อนสาวชื่อ “อ๊บบี้” และในบ่อน้ำนี้มีปลาชื่อ “ฟิชชี่” ปลาตัวนี้เป็นปลาที่ฉลาดที่สุดในบ่อน้ำนี้เลย
อ๊บอ๊บกับอ๊บบี้ก็ชื่นชอบและเป็นลูกค้าประจำของท่านฟิชชี่เพราะทั้งคู่พึ่งย้ายเขามาอยู่ในบ่อน้ำนี้ ก็เลยต้องปรึกษาเรื่องราวต่างๆในบ่อน้ำ
........เวลาผ่านไป อ๊บอ๊บกำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่ รายการนี้เป็นรายการที่มีคนออกไปผจญภัยแล้วมาบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังผ่านทางรายการทีวี เมื่อดูเสร็จอ๊บอ๊บก็อยากออกไปผจญภัยบ้างก็เลยไปถามอ๊บบี้ว่า
“ฉันอยากไปผจญภัยบนโลกมนุษย์เธอไปด้วยกันไหม” อ๊บบี้นึกอะไรดีๆออกจึงพูดขึ้นว่า “งั้นเราไปปรึกษาท่านฟิชชี่กันดีกว่า”
ทั้งคู่จึงเดินทางไปหาท่านฟิชชี่ ท่านฟิชชี่กำลังอ่านหนังสื่ออยู่ “ท่านฟิชชี่คะขอรบกวนหน่อยคะ” อ๊บบี้พูดขึ้น “ได้สิข้ากำลังว่างๆอยู่เลย” ท่านฟิชชี่ตอบ อ๊บอ๊บกระโดดอย่างดีใจแล้วพูดขึ้นว่า “คือพวกเราอยากขึ้นไปผจญภัยบนโลกมนุษย์นะฮะ”
“ได้สิเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าได้ไปผจญภัยอย่างสนุกสนานและมีความสุขเอง”ว่าแล้วท่าฟิชชี่ก็มอบฟองน้ำวิเศษที่ไม่มีวันแตกและสามารถทำให้กลายร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่ท่านฟิชชี่เอยขึ้นว่า “ฟองน้ำนี้มีพลังอยู่ได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นแล้วพลังจะหมดลงและก่อนพลังจะหมดหนึ่งวันให้พวกเจ้ารีบแปลงกลายกลับมาเป็นกบไม่อย่างนั้นพวกเจ้าจะกลายเป็นมนุษย์ตลอดกาล”
มื่อท่านฟิชชี่พูดจบ “กลายเป็นคนก็ดีสิ”อ๊บอ๊บพูดอย่างดีใจ “ไม่....เพราะถ้าเราเป็นคนเราก็ไม่ได้เจอท่านน้ากับท่านอาอีกเลย” อ๊บบี้เถียงอย่างไม่พอใจ “จริงสิ........ฉันขอโทษที” “เอาละไปได้แล้วทั้งคู่ ขอให้ผจญภัยอย่างสนุกสนานนะ” จากนั้นทั้งคู่ก็แปลงกลายเป็นมนุษย์

ตอนที่สอง:
ทั้งคู่ออกเดินทางไปเรื่อยๆ จนเหนื่อย ท้องฟ้าก็เริ่มมืดทั้งคู่ก็เลยนอนพักใต้ต้นไม้ พลังของฟองน้ำทำให้ทั้งคู่ไปตกอยู่ที่เมืองแห่งหนึ่งโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ตื่นขึ้นมาตกใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน อ๊บอ๊บจึงเดินไปดูแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นี่นี่อ๊บบี้เราอยู่ที่เมือง ฟรุ๊ตตี้ทาวน์นะ” อ๊บบี้จึงพูดว่า “งั้นเราไปขออาหารกินกันเถอะเราเริ่มหิวแล้ว”
เมืองฟรุ๊ตตี้ทาวน์นี้เป็นเมืองที่ทุกบ้านจะปลูกผลไม้ไว้ไม่ซ้ำกันและเมื่อปีใหม่ทุกคนจะทำผลไม้น้ำปั่นกินกันในครอบครัว แต่คนในหมู่บ้านนี้ไม่มีน้ำใจโดยเฉพาะกับนักเดินทาง แต่ทั้งคู่ไม่รู้จึงเขาไปขออย่างสุภาพว่า “เราขออาหารกินซักหน่อยได้มั้ย” แต่ด้วยความที่คนในหมู่บ้านนี้ไม่มีน้ำใจจึงตอบอย่างไม่พอใจว่า “ไม่ได้หรอกอาหารของเราพอสำหรับคนในครอบครัวเท่านั้น”
เมื่อทั้งคู่รู้ว่าคนในหมู่บ้านนี้ไม่มีน้ำใจจึงจะคิดหาวิธีแก้นิสัยไม่มีน้ำใจของคนในหมู่บ้านนี้
วันต่อมาอ๊บบี้แอบเข้าไปขโมยข้าวโพดจากบ้านคุณหญิงผู้จัดการหมู่บ้าน ทั้งคู่นำมาทำซุปข้าวโพดขายหน้าเมืองสำหรับนักเดินทางเท่านั้น ชาวบ้านได้กลิ่นหอมของซุปจึงตามกลิ่นมาแล้วมาพบอ๊บอ๊บและอ๊บบี้ขายอยู่ “พวกเราขอกินได้มั้ย” “ไม่ได้หรอกเราทำสำหรับนักเดินทางเท่านั้น” ด้วยความที่อยากกินจึงพูดอย่างไม่รู้นิสัยตนเองว่า “ ไม่มีน้ำใจ” “แล้วพวกเจ้าละ” อ๊บอ๊บพูดขึ้น “ยังไม่มีนํ้าใจแบ่งอาหารให้พวกเรากินเลย”อ๊บอ๊บพูดต่อ “เข้าใจแล้ว ต่อจากนี้เราจะมีนํ้าใจต่อผู้อื่นและนักเดินทาง” ทั้งคู่ดีใจที่ทำสำเร็จ แล้วจึงฝากร้านให้ลูกน้องคุณหญิงดูแล

ตอนที่สาม:
อ๊บอ๊บกับอ๊บบี้มาถึงเมือง “ซันไอซ์” ในอดีตเมืองนี้มีหน้าฝนตลอดทั้งปี แม่มดที่มีความสามารถพิเศษจึงมาเข้าเฝ้าพระราชาและพระราชินีแล้วพูว่า “พระองค์อยากให้เมืองเรามีฤดูอะไร” “ข้าอยากให้มี.......” พระราชาพูดแต่พระราชินีแทรกขึ้นว่า “หน้าหนาว”แต่พระราชาไม่ชอบจึงเถียงว่า “หน้าร้อน” ทั้งสองพระองค์ทะเลาะกันไปมาจนแม่มดทนไม่ไหวเลยพูดว่า “ข้าจะแบ่งเมืองนี้เป็นสองฝั่งแล้วฝั่งหนึ่งเป็นหน้าหนาวให้ราชินีปรกครองส่วนอีกฝั่งเป็นหน้าร้อนให้พระราชาปรกครอง” แต่พระองค์ไม่ทันตกลงแม่มดก็สาปให้เมืองเป็นอย่างที่ตนต้องการ....
เมื่ออ๊บอ๊บและอ๊บบี้รู้เรื่องราวทั้งหมด ก็คิดจะช่วยเหลือจึงแยกกันไปถามชาวบ้านว่า “พระองค์ไหนถูก” อ๊บอ๊บซึ่งถามฝั่งร้อนได้คำตอบมาว่าพระราชาถูก อ๊บบี้ซึ่งไปถามฝั่งหนาวได้คำตอบมาว่าพระราชินีถูก ทั้งสองพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จ “อ๋อ.....เหลืออีกวิธีหนึ่ง” อ๊บบี้นึกขึ้นได้ “ทำอะไร” อ๊บอ๊บถาม “ก็บุกไปหาแม่มดไง” อ๊บบี้ตอบ“จะบ้าเหรอแม่มดมีเวทมนต์นะ”
อ๊บอ๊บตะโกนเสียงดังจนมีครอบครัวหนึ่งครอบครัวเดินเข้ามา แล้วพ่อก็พูดว่า “เราไม่อยากจะอยู่เมืองนี้เลยเพราะราชาก็ปรกครองเมืองด้วยความดูถูกประชาชน ราชินีก็เอารายได้ของประชาชนไปซื้อเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ” แม่ก็พูดต่อว่า “ลูกคนโตของเราก็ไปเป็นทาสรับใช้แม่มด” อ๊บบี้ก็ถามด้วยความสงสารว่า “แล้วพวกท่านจะอยู่ที่ไหน” ลูกคนเล็กตอบว่า “บ้านเราอยู่ตรงกลางเมืองเหมือนเป็นตัวขั้นระหว่างสองฝั่งนะจะ” แล้วพ่อก็พูดต่อมาว่า “มีทางเดียวคือไปหาแม่มดแล้วแก้คำสาปให้ได้” แม่บอกอีกว่า “เราพายายามทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ” “เราจะช่วยพวกท่านเอง....เราจะไป”อ๊บอ๊บพูดอย่างมั่นใจ “โอ้โห...แมนสุดสุด”อ๊บบี้กล่าว “รีบไปเถอะใกล้มืดแล้ว”คุณแม่พูด “ ครับไม่ต้องห่วงลูกของคุณต้องปลอดภัย”อ๊บอ๊บพูดแล้วรีบพาอ๊บบี้ไปตามหาแม่มด ครอบครัวนั้นได้วาดแผนที่ไว้ให้อ๊บบี้เป็นคนดูแล้วอ๊บอ๊บเดินนำทางไป “ทำไมบ้านใหญ่จัง” อ๊บอ๊บเอ่ยถามอ๊บบี้ “ก็อยู่กันแค่สองคนแล้วถามฉันฉันจะไปถามใคร” “แหม อ๊บบี้ก็กวนไปได้” แล้วทั้งสองก็รวบรวมความกล้าแล้วก้าวเข้าไปในบ้านของแม่มด

“เอาอย่างนี้เดียวเธอไปทำเป็นคุยกับนาง.....อืมหลอกล่อนางนะ” อ๊บอ๊บจ่ายงานให้อ๊บบี้ “แค่สั่งยังสั่งไม่ถูกเลย” อ๊บบี้บน “เอาเถอะเดี๋ยวพระอาทิตย์ตกดินกันพอดี” อ๊บบี้เดินเข้าไปคุยกับแม่มด “สวัสดีคะ” แม่มดหันมาแล้วพูดว่า “เธอเป็นใครนะ”อ๊บบี้พูดว่า “คือ....ช่างเถอะค่ะคุณชอบฤดูอะไรเหรอคะ” “ฉันชอบฤดูฝนเพราะมีหน้าฝนแล้วทำให้สมุนไพรของฉันโต แล้วจะได้เอามาปรุงยาวิเศษ” “แล้วคุณเปลี่ยนเมืองนี้ทำไมคะ” “เรื่องนี้นะ เมื่อเวลาฉันโกรธจะควบคุมพลังไม่อยู่” “งั้นแสดงว่าคุณไม่ได้ตั้งใจสิคะ” “ใช่” อ๊บบี้ถามไปเรื่อยๆ “แล้วคุณไม่คิดจะแก้คำสาปเหรอคะ” “ก็เพราะไม่มีสมุนไพรมาปรุงยาไง” อ๊บบี้บอกลาแม่มดแล้วเดินออกไปหาอ๊บอ๊บ “ฉันได้ยินหมดแล้ว.....เอาอย่างนี้เราก็ไปเอาสมุนไพรจากหน้าหนาวและหน้าร้อนมาปรุงร่วมกันสิ” “เออความคิดดี”อ๊บบี้พูด
เมื่อทั้งคู่ลองดูก็สำเร็จ แต่คราวนี้เป็น 3 ฤดูเวียนกัน 5 เดือนแรกเป็นหน้าร้อน 5 เดือนต่อมาเป็นหน้าฝน ส่วนอีก 4 เดือนสุดท้ายเป็นหน้าหนาว พระราชาและราชินีก็กลับมาคืนดีกันแล้วร่วมกับปรกครองเมืองอย่างสงบสุข อ๊บอ๊บและอ๊บบี้ได้ไปเข้าเฝ้าพระราชาและพระราชินีได้รับคำขอบคุณมากมาย จากนั้นทั้งคู่ออกเดินทางต่อไปยังเมืองต่อไป

ตอนที่สี:
ทั้งคู่เดินทางมาถึงเมือง “อันเดอร์” เมืองนี้อยู่ใต้นํ้า ผู้ต้อนรับหน้าเมืองให้กินสาหร่ายวิเศษแล้วจะหายใจในน้ำได้ “นี่เราจะต้องเข้าไปช่วยเหลือคนในดินแดนนี่ใช่ไหม” อ๊บอ๊บถามอ๊บบี้ “อืม.....ไม่แน่อาจจะหรืออาจจะไม่” “งั้น เราเข้าไปกันเถอะ” อ๊บบี้พูด “ขอต้อนรับสู่เมืองของเราแขกทุกท่านและขอต้อนรับเข้าสู่งานอันเดอร์เดอะไนซ์ซิตี้คร้าาาบ” อ๊บอ๊บและอ๊บบี้ได้ยินเสียงต้อนรับจากหัวหน้าหมู่บ้านแล้วก็ดีใจ
หลังจากที่ต้องใช้สมองและพลังงานในการช่วยผู้คนในหมู่บ้านต่างๆมา เพราะพวกเขาจะได้สนุกกับงานปาร์ตี้ในคืนนี้ “เราไปพักผ่อนกันให้เต็มที่เลยดีกว่า” อ๊บบี้พูดขึ้น ว่าแล้วทุกคนก็มีความสุขอยู่ในงานปาร์ตี้ตลอดทั้งวัน.....แต่ทั้งคู่มันทันได้ระวังฟองน้ำได้มีแสงขึ้นมา อ๊บบี้รู้ตัวเลยฉุดมือของอ๊บอ๊บออกไปนอกเมือง “เธอพาฉันออกมาทำไม”อ๊บอ๊บเอ่ยถาม “ก็พรุ่งนี้มันวันสุดท้ายแล้วนะ ที่เราจะได้ผจญภัยเพราะฟองน้ำจะหมดพลังแล้วในอีกสองวันข้างหน้า เราจะต้องออกเดินทางกลับแล้วนะ”อ๊บบี้ตอบ “อะไรกัน ทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง” “ยังไงก็ต้องไปแล้ว” ทั้งคู่จึงไปบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านแล้วออกเดินทาง ทั้งคู่เดินทางไปได้ซักพักก็ประสบกับปัญหาใหญ่คือ อาหารหมดกระเป๋า อ๊บอ๊บร้องไห้เสียงดังสนั่น อ๊บบี้นั่งคิดอย่างเงียบสงบ “อ๋อ...คิดออกแล้ว”อ๊บบี้คิดได้ “เราก็ไปกินซุปข้าวโพดที่เมืองฟรุ๊ตตี้ทาวน์กันเถอะ” อ๊บบี้พูดต่อ
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางไปกินซุปข้าวโพดแล้วเดินทางต่อ “ได้เวลากลับกลายไปเป็นกบอีกครั้งแล้ว”อ๊บอ๊บพูด แล้วพวกเขาก็กลับร่างเป็นกบแล้วกระโดดลงบึงไป พวกเขาได้กลับเจอเพื่อนๆแล้วเล่าเรื่องราวให้ฟังกันอย่างสนุกสนานและมีความสุข